เนื้อหา
การปิดใช้งานพอร์ต USB บนคอมพิวเตอร์ช่วยป้องกันข้อมูลสำคัญจากการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตในรูปแบบของไวรัสมัลแวร์แฮกเกอร์และซอฟต์แวร์ของบุคคลที่สามที่เป็นอันตราย คุณสามารถปิดใช้งานพอร์ต USB ได้โดยแก้ไข "Windows Registry" หรือลบส่วนขยาย USB บน Mac OS X
ขั้นตอน
วิธีที่ 1 จาก 2: Windows
- ถอดอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เหล่านี้ไม่มีแป้นพิมพ์หรือจอภาพ
-
เข้าถึงคอมพิวเตอร์ของคุณโดยใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ - กดปุ่ม ⊞ชนะ+ร. เพื่อเปิด command line "Run" ใน Windows ทุกเวอร์ชัน
-
พิมพ์ "regedit" แล้วกดแป้น ↵ Enter. เพื่อเปิดหน้าจอ "Windows Registry" - ไปที่เส้นทางต่อไปนี้ใน "Windows Registry": HKEY_LOCAL_MACHINE SYSTEM CurrentControlSet Services USBSTOR โฟลเดอร์นี้ควบคุมที่จัดเก็บข้อมูล USB บนคอมพิวเตอร์
-
เปิดคีย์รีจิสทรีที่ชื่อว่า "Start.’ - เปลี่ยนค่าของคีย์รีจิสทรี "Start" จาก "3" เป็น "4’ เพื่อปิดพอร์ต USB ของคอมพิวเตอร์
- ปิดหน้าต่าง "Windows Registry" ตอนนี้คอมพิวเตอร์ของคุณจะไม่พบอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล USB อีกต่อไป
- ทำซ้ำขั้นตอน # 1 ถึง # 8 และเปลี่ยนค่าจาก "4" เป็น "3" เพื่อเปิดใช้งานพอร์ต USB อีกครั้ง
วิธีที่ 2 จาก 2: Mac OS X
- เข้าถึงคอมพิวเตอร์ของคุณโดยใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ
- คลิก "ไป" และเลือก "ไปที่โฟลเดอร์’.
- พิมพ์ "/ System / Library / Extensions" ในกล่องโต้ตอบจากนั้นคลิก "Go’. เพื่อเปิดโฟลเดอร์ "Extensions" ซึ่งจะบันทึกข้อมูลจากพอร์ต USB
- ค้นหาไฟล์ "IOUSBMassStorageClass.kext" และ "IOFireWireSerialBusProtocolTransport.kext’. ไฟล์เหล่านี้ควบคุมที่เก็บข้อมูลขนาดใหญ่เท่านั้นและไม่มีผลต่อพอร์ต USB บนแป้นพิมพ์หรือจอภาพ
- ย้ายทั้งสองไฟล์ไปที่ถังขยะ
- คลิกขวาที่ถังขยะแล้วเลือก "ล้างถังขยะ’.
- รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ พอร์ต USB ของระบบจะปิดใช้งาน
คำเตือน
- การเปลี่ยนค่า "Windows Registry" อย่างไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดและป้องกันไม่ให้คอมพิวเตอร์เริ่มต้นและทำงานได้อย่างถูกต้อง ให้ความสนใจเป็นพิเศษเมื่อเปลี่ยนค่าใน "Windows Registry" เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ระบบล่ม
- การปิดใช้งานพอร์ต USB บน Mac OS X ทำให้พอร์ตเหล่านี้หยุดทำงานจนกว่าระบบจะติดตั้งใหม่หรือคืนค่าเป็นการตั้งค่าจากโรงงาน ทำตามขั้นตอนเหล่านี้ (ภาษาอังกฤษเท่านั้น) เพื่อติดตั้ง Mac OS X ใหม่และกู้คืนพอร์ต USB ที่ปิดใช้งาน